ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ใช้อย่างไรให้ตรงอาการ

ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ใช้อย่างไรให้ตรงอาการ

ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย หนึ่งในกลุ่มยาที่มีความสำคัญในการรักษา และบรรเทาอาการเจ็บปวดแบบฉับพลัน หรือเรื้อรังจากสาเหตุปัจจัยต่าง ๆ เช่น การบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย การทำงานหนัก หรือแม้กระทั่งอาการเจ็บปวดจากโรค ฯลฯ 

 

ซึ่งในปัจจุบันยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกายเหล่านี้ มักมีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อความสะดวกและความเหมาะสมกับอาการที่เกิดขึ้น เช่น ยา, ครีมทาแก้ปวดเมื่อย, เจล, สเปรย์ และแผ่นแปะ เป็นต้น ทั้งนี้ อาการเจ็บปวดบางอย่าง หากใช้ตัวยาในการรักษาอย่างไม่ถูกต้อง ก็อาจส่งผลทำให้อาการปวดหายช้าได้  

 

ด้วยความห่วงใยจาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส บทความนี้ จึงได้รวบรวมข้อมูลสุขภาพดี ๆ เกี่ยวกับ ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ใช้อย่างไรให้ตรงอาการ มาฝากกัน 

 

ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย คืออะไร  

เป็นกลุ่มยาที่ใช้บรรเทาอาการปวด แก้เมื่อย แก้เคล็ดขัดยอก จากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งจะแตกต่างจากยาฆ่าเชื้อ โดยปัจจุบัน ตัวยาในการรักษาแก้อาการปวดเมื่อย จะมีให้เลือกใช้หลากหลายประเภท โดยแบ่งออกตามกลไกการออกฤทธิ์ และความรุนแรงของอาการปวดที่สามารถรักษาได้ เช่น  

 

  • อาการเจ็บปวดแบบเฉียบพลัน ที่มีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บหรือการอักเสบ เช่น อาการปวดจากการเคล็ดขัดยอก ปวดแขน ปวดขา ปวดฟัน หรือหลังจากการผ่าตัด 
  • อาการเจ็บปวดแบบเรื้อรัง อาการปวดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหรือเป็นประจำ โดยมักเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ หรือ โรคมะเร็ง เป็นต้น 
     

ซึ่งอาการทั้ง 2 ประเภทนี้ เพื่อความปลอดภัยในการรักษา หรือบรรเทาอาการให้ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรที่น่าเชื่อถือก่อนใช้ยา โดยเฉพาะในกรณีที่มีโรคประจำตัวเพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่ตรงจุด 

 

4 รูปแบบของ “ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย มีอะไรบ้าง ? 

 

4 รูปแบบของ “ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย” มีอะไรบ้าง ?

 

ปัจจุบันยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกายมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
 

1. ยาเม็ด หรือ แคปซูล ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยมีทั้งแบบยาในกลุ่มของพาราเซตามอล (Paracetamol) ซึ่งเหมาะสำหรับอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง และยากลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้ดีขึ้น 

การใช้งาน: เหมาะสำหรับอาการปวดทั่วไป เช่น ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ และลดไข้ 

 

2. เจลหรือครีมทา มีส่วนผสมของเมนทอล หรือ NSAIDs ที่ช่วยระงับความรู้สึก แก้ปวดเมื่อย หรือลดปวดจากการอักเสบระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งถือเป็นยาทาแก้เคล็ดขัดยอกที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้    

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการใช้ทาเฉพาะจุดบริเวณกล้ามเนื้อ โดยให้ความรู้สึกร้อนหรือเย็น ซึ่งช่วยบรรเทาอาการปวดได้เป็นอย่างดี 

 

3. สเปรย์ รูปแบบขวดพ่นลงบนผิวหนังได้โดยตรง ช่วยลดอาการปวดและบวมอักเสบเฉพาะจุดของกล้ามเนื้อ 

การใช้งาน: สามารถฉีดลงบนบริเวณที่เจ็บได้ทันที ทำให้รู้สึกเย็นสบายและช่วยบรรเทาอาการปวด มีทั้งสูตรร้อน และ สูตรเย็น 

 

4. แผ่นแปะ มีส่วนผสมของสารต้านการอักเสบหรือยาแก้ปวด ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง โดยปล่อยสารออกฤทธิ์เข้าสู่ร่างกายอย่างช้า ๆ 

การใช้งาน: ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง โดยสามารถติดแผ่นแปะในบริเวณที่มีอาการได้อย่างสะดวก 

 

โดยรูปบของยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกายทั้ง 4 ประเภทนี้ มักมี 3 ตัวยาสำคัญ ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดจากการอักเสบเฉียบพลัน เรื้อรัง ตั้งแต่ระดับขั้นเล็กน้อย ไปจนถึงขั้นรุนแรง ซึ่งสามารถนำไปใช้กับอาการเจ็บปวดจากปัจจัยต่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น ได้ดังนี้  

 

3 ตัวยาแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง 

1. ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)

 

ยาพาราเซตามอล (Paracetamol)

 

เป็นยาแก้ปวดลดไข้ที่ไม่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ โดยมีส่วนช่วยลดอาการปวดที่เกิดขึ้นร่วมกับไข้ได้ ซึ่งมีทั้งรูปแบบยาเม็ดและยาน้ำ เหมาะสำหรับอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น ทั้งนี้ การรับประทานยากลุ่มนี้ หากใช้ยาเกินขนาดอาจทำให้เกิดพิษร้ายแรงต่อตับได้ 

 

ปริมาณที่แนะนำยาพาราเซตามอล  

  • ผู้ใหญ่ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง แต่ไม่ควรเกิน 8 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินต่อเนื่องเกิน 5 วัน
    ซึ่งสำหรับเด็ก ที่มีน้ำหนักน้อย รวมถึงผู้ป่วยโรคตับ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ยา
     

2. ยาแก้อักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDs) 

 

ยาแก้อักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDs)

 

เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) และ ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ซึ่งมีฤทธิ์ทั้งลดอาการปวดและลดการอักเสบ เหมาะสำหรับอาการปวดที่มีการอักเสบ เช่น ข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ ปวดฟัน ปวดประจำเดือนหรือเจ็บปวดจากการบาดเจ็บ เป็นต้น  

 

ข้อแนะนำการใช้ยาแก้อักเสบชนิดไม่มีสเตียรอยด์ 

  • ขนาดและวิธีการใช้จะขึ้นอยู่กับชนิดของยา และอายุของผู้ป่วย ดังนั้น ควรอ่านคำแนะนำบนฉลากหรือปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัย 

 

3. ยากลุ่มโอปิออยด์ (Opioids) 

 

ยากลุ่มโอปิออยด์ (Opioids)

 

เป็นยาแก้เจ็บปวดชนิดรุนแรง ใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดระดับปานกลางไปถึงรุนแรงทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็น อาการปวดหลังการผ่าตัดจากโรคมะเร็ง อาการท้องเสีย หรือไออย่างรุนแรง ฯลฯ ซึ่งยาบางชนิดในกลุ่มนี้ จะมีในกลุ่มของยาเสพติดให้โทษ เช่น ยาโคเดอีน (Codeine) เฟนทานิล (Fentanyl)  มอร์ฟีน (Morphine) เป็นต้น 

 

ข้อควรระวังการใช้ยากลุ่มโอปิออยด์  

  • การใช้ยาในกลุ่มนี้จะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อการติดยาในระยะยาวได้  

 

คำแนะนำการใช้ ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย อย่างถูกต้อง

 

คำแนะนำการใช้ ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย อย่างถูกต้อง

 

  1. ควรกินในระยะสั้นเท่าที่จำเป็น หากอาการดีขึ้นควรหยุดรับประทานทันที เพื่อป้องกันการได้รับยาเกินขนาด 
  2. ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้ยา โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังใช้ยาอื่นอยู่ เช่น โรคตับ โรคไต ซึ่งหากผู้ป่วยมีความกังวลใจ หรือไม่มั่นใจในเรื่องของอาการที่เป็นอยู่ สามารถขอคำปรึกษาจากเภสัชกรที่น่าเชื่อถือใกล้บ้าน หรือแอปพลิเคชัน ALL PharmaSee ตัวช่วยที่พร้อมให้คำแนะนำเรื่องสุขภาพกับคุณตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีค่าใช้จ่าย 
  3. อ่านฉลากและคำแนะนำอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง ควรอ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้และข้อควรระวังอย่างละเอียด 
  4. ไม่ควรใช้ยานานเกินไป หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุของอาการ 
  5. ห้ามกินยาร่วมกับการสูบบุหรี่หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักขึ้นและเพิ่มโอกาสต่อการเกิดภาวะตับล้มเหลว

หมายเหตุ: ยาแก้ปวดใช้สำหรับรักษาหรือบรรเทาอาการปวดเท่านั้น ไม่ได้ใช้สำหรับเพื่อป้องกัน ดังนั้น ไม่แนะนำให้รับประทานยาแก้ปวด ก่อนมีอาการเพราะอาจทำให้ใช้ยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

การใช้สิทธิบัตรทองในการรักษาอาการ ปวดเมื่อยตามร่างกาย 

ำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย หรืออาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้อง ข้อ กล้ามเนื้อ ฟัน และประจำเดือน สามารถใช้สิทธิบัตรทองเพื่อรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วม “โครงการร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ” ได้ ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา และจ่ายยาที่จำเป็น เช่น ยาพาราเซตามอล หรือ ยากลุ่มอื่น ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

 

ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิบัตรทองสำหรับรักษาอาการคันที่ร้านยา สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาใกล้บ้านได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) [เช็กรายชื่อร้านยาได้ที่นี่] โดยร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้เข้าร่วมโครงการสิทธิบัตรทอง พร้อมให้บริการ Delivery จัดส่งยาและสินค้าสุขภาพถึงบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน ALL PharmaSee 

  

ใช้บริการ Delivery คลิกเลย! 

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย 

Q: มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ควรกินยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกายอะไร ? 

A: แนะนำเป็นยาในกลุ่มของ พาราเซตามอล หรือ อะเซตามิโนเฟน เนื่องจากตัวยากลุ่มนี้สามารถบรรเทาปวดจากสาเหตุต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดจากข้อเสื่อม ปวดกล้ามเนื้อ และลดไข้ เป็นต้น อีกทั้ง จัดเป็นยาที่หาซื้อได้ง่าย ค่อนข้างปลอดภัยเมื่อใช้อย่างถูกวิธี 

 

Q: ยาพาราแก้ปวดเมื่อยได้ไหม ? 

A: สามารถช่วยได้ โดยยากลุ่มพาราเซตามอล มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวดเล็กน้อย จนถึงปานกลาง เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยจากไข้หวัด ปวดฟัน ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และปวดจากข้อเสื่อม เป็นต้น ทั้งนี้ ไม่สามารถบรรเทาอาการปวดในระดับเรื้อรัง หรือ รุนแรงได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างตรงจุด 

 

Q: ยาแก้ปวดชนิดใด ปลอดภัยที่สุดสําหรับ ผู้ป่วยโรคไต ? 

A: ยาประเภทกลุ่ม NSAIDs หากทานเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีโรคไต หรือในผู้สูงอายุ อาจทําให้ไตเสียหายได้ ซึ่งปัจจุบันแพทย์อาจแนะนำให้รับประทานในกลุ่มยาของพาราเซตามอล เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่า   

สรุป 

การเลือกใช้ ยาแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย ให้ตรงกับอาการนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจประเภทของยา วิธีการใช้ และข้อควรระวังจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับอาการได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ 

 

ที่มา 

ยาแก้ปวด กินอย่างไรให้ปลอดภัย จากรามา แชนแนล   

ยาพาราเซตามอล รักษาอาการปวดได้ทุกอย่างจริงหรือ ? จาก โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์   

Painkillers จาก Patient

 


อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่

LINE: @eXtaPlus (https://bit.ly/eXtaplus)

หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ

All Pharma See

บทความที่เกี่ยวข้อง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เอ็กซ์ต้าเห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่นๆ เอ็กซ์ต้ายังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้เอ็กซ์ต้าไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า ทั้งนี้หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของเอ็กซ์ต้า แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึก