การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เมื่อไม่ได้ป้องกันอาจเกิดความวิตกกังวลใจ กลัวตนเองจะตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ จึงนำไปสู่การทานยาคุมฉุกเฉินที่มากเกินไปจนประสิทธิภาพในการป้องกันลดน้อยลง และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย บทความนี้ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส จึงมีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด กินอย่างไรให้ได้ผลและปลอดภัยที่สุด มาแบ่งปันกัน เพื่อสร้างความเข้าใจในการทานยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง
รู้จักกับ “ยาคุมฉุกเฉิน” เพื่อทำความเข้าใจวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด
ยาคุมฉุกเฉิน หรือยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency Contraceptive Pill) เป็นยาที่มีส่วนประกอบเหมือนกับยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา แต่จะมีปริมาณของยาฮอร์โมนมากกว่า เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้เตรียมพร้อมมาก่อน กรณีที่คุมกำเนิดแล้วล้มเหลว เช่น ถุงยางอนามัยชำรุด ห่วงอนามัยหลุดออก และการลืมกินยาคุมชนิดปกติเกิน 3 วัน รวมถึงกรณีที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศด้วย
โดยจะมีตัวยาสำคัญ คือ ลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) ออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ (ปล่อยไข่ออกจากรังไข่) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิสนธิ อีกทั้งยังทำให้ไข่ที่รวมตัวกับอสุจิแล้วฝังตัวในโพรงมดลูกได้ยากขึ้น
ปัจจุบันมีทั้งหมด 2 ชนิด คือ
- ชนิด 1.5 มิลลิกรัม บรรจุยา 1 เม็ด จะมีปริมาณตัวยา 1.5 มิลลิกรัม
- ชนิด 0.75 มิลลิกรัม บรรจุยา 2 เม็ด* แต่ละเม็ดจะมีปริมาณตัวยา 0.75 มิลลิกรัม โดยเม็ดแรกจะต้องกินทันที หรือภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นกินเม็ดที่สองต่อในอีก 12 ชั่วโมงถัดไป
* กินทีละเม็ด หรือกินพร้อมกัน 2 เม็ด ปรับวิธีกินได้ตามความเหมาะสม
วิธีกินยาคุมฉุกเฉินทั้งแบบ 1 เม็ด และ 2 เม็ด จะไม่แนะนำให้กินยาเกิน 4 เม็ด หรือ 2 กล่องต่อเดือน แต่ทั้งนี้ มีบางคนที่อาจใช้ยาด้วยความเข้าใจที่ผิดอยู่ ซึ่งสามารถพบได้บ่อยในชีวิตประจำวันหลายกรณีเลยทีเดียว
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด
ยาคุมฉุกเฉินมีข้อบ่งชี้ที่สำคัญ คือ เป็นยาที่ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น แต่กลับมีบางคนที่ใช้ยาชนิดนี้ผิดวิธี โดยสาเหตุที่ทำให้เข้าใจวิธีกินผิดอาจสันนิษฐานได้ว่า มาจากความกังวลที่กลัวจะตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในช่วงเวลาที่ยังไม่พร้อมทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ ประกอบกับทำตามคำแนะนำจากคนรอบข้างที่ใช้ยาแบบผิด ๆ โดยที่ไม่ทราบวิธีกินที่ถูกต้องจริง ๆ จึงมีโอกาสที่จะเข้าใจวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดผิดได้
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกินยาคุมฉุกเฉินที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เช่น
- กินยาเพียง 1 เม็ด โดยไม่กินต่อให้ครบ เพราะเข้าใจว่ายา 1 เม็ด สามารถคุมกำเนิดได้ 12 ชั่วโมง ส่วนยาอีกเม็ดเก็บไว้กินเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไปได้
- กินยาซ้ำอีกกล่องหวังเพิ่มประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ของยา หลังมีเพศสัมพันธ์ในช่วงระยะเวลาที่กินยาคุมอยู่ (72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์รอบก่อนหน้า)
- กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ เหมือนกินยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา เช่น ทานเกิน 4 เม็ดภายในรอบเดือนเดียว
เมื่อเข้าใจวิธีกินยาคุมฉุกเฉินผิดมาตลอด หากใช้ยาแบบนี้นาน ๆ อาจส่งผลกระทบทั้งด้านประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด และสุขภาพร่างกายในระยะยาวตามมาได้
ผลที่เกิดขึ้นหลังใช้วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดด้วยความเข้าใจผิด
ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินผิดวิธี ไม่ว่าจะกินยาติดต่อกันหลายเม็ด หรือกินเพียง 1 เม็ดแล้วไม่กินต่อให้ครบ จะต้องรับมือกับผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย นั่นคือ ประจำเดือนจะมาผิดปกติ เลือกออกกะปริบกะปรอย และมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนบ่อยครั้ง บางกรณีอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์นอกมดลูกได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์ของยาคุมฉุกเฉินที่แย่ลง ทำให้โอกาสในการคุมกำเนิดล้มเหลวง่ายขึ้นด้วย หากเกิดอาการผิดปกติเหล่านี้ รีบไปพบหมอเพื่อรับการรักษาต่อไป หรือปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
ดังนั้น ควรศึกษาวิธีการกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดที่ถูกต้องให้เข้าใจ เพื่อให้สามารถใช้ยาได้มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยมากขึ้น โดยมีวิธีใช้ยาคุมฉุกเฉิน ดังนี้
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดให้ได้ผล และปลอดภัย
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์อย่างสูงสุด คือ ต้องกินทันที หรือให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง (ประมาณ 3 วัน) หลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน รวมทั้งมีการคุมกำเนิดแล้วล้มเหลว
ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีเพศสัมพันธ์ตอน 2 ทุ่ม วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด ที่ถูกต้อง คือ ต้องกินยาให้เร็วที่สุดไม่เกิน 5 ทุ่ม
ทั้งนี้ ยาคุมฉุกเฉินชนิด 1 เม็ด จะมีปริมาณของยาที่สูงกว่าแบบชนิด 2 เม็ด อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นบ้าง เช่น ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และประจำเดือนมาเร็วหรือช้ากว่าปกติ แต่ถ้าหากใช้ยาในปริมาณที่เหมาะสม (ไม่เกิน 2 กล่องต่อเดือน) ในระยะเวลาสั้น ๆ จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด
ข้อควรระวังสำหรับวิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด
- ห้ามใช้ยานี้เหมือนใช้ยาคุมกำเนิดแบบธรรมดา เพราะจะส่งผลเสียต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศ และระบบสืบพันธุ์ที่ผิดปกติได้
- ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลทำให้แท้ง และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
- วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดแรก ยิ่งกินยาช้า ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะยิ่งลดน้อยลง เพราะฉะนั้น ควรกินยาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
- สำหรับวิธีการกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด จะมีโอกาสคลื่นไส้ อาเจียนมากกว่ายาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด เนื่องจากมีปริมาณตัวยาที่มากกว่า ดังนั้น เมื่อกินยาเข้าไปแล้วอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมง แนะนำให้กินยาใหม่ซ้ำอีกรอบ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด ป้องกันได้กี่เปอร์เซ็นต์?
หากกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกภาย 24 ชั่วโมงแรก จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ 85% ในขณะเดียวกัน ถ้าไม่ได้เริ่มกินยาใน 24 ชั่วโมงแรก แต่มาเริ่มกินหลังจากนั้นภายใน 72 ชั่วโมง โอกาสป้องกันการตั้งครรภ์จะลดเหลือแค่ 75% ดังนั้น วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดที่ได้ผลที่สุดคือ กินหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที
หากใช้วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด จะท้องไหม?
อาจจะไม่ท้อง ถ้าหากรู้วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ดที่ถูกต้อง นั่นคือการกินยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง แต่ทั้งนี้ ประจำเดือนอาจมาช้า หรือมาเร็วกว่าที่คาดการณ์ประมาณ 1 สัปดาห์ ถ้ามีประจำเดือนมาในช่วงเวลานั้น อาจเป็นสัญญาณที่ดีที่บ่งบอกได้ว่าจะไม่ท้อง แต่ถ้าไม่มา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า “ท้อง”
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด หลัง 72 ชั่วโมง จะได้ผลไหม?
วิธีกินยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด หลัง 72 ชั่วโมงอาจป้องกันการตั้งครรภ์ได้น้อยมาก เนื่องจากไข่ที่ผสมกับอสุจิแล้วจะเดินทางไปฝังตัวที่ผนังมดลูกภายใน 5 – 6 วัน เมื่อกินยาคุมฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์ล่าช้าออกไปนานถึง 120 ชั่วโมง (5 วัน) ยาที่กินเข้าไปจะหมดประสิทธิภาพลงทันที และอีกทั้งยังไม่มีผลทำให้แท้งด้วย
สรุป
ยาคุมฉุกเฉินจัดเป็นยาคุมกำเนิดอีกรูปแบบหนึ่งที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนยาลีโวนอร์เจสเตรลเหมือนกันกับยาคุมแบบธรรมดา แต่จะต่างกันที่ปริมาณของฮอร์โมนยาจะมากกว่า โดยจะมีทั้งหมด 2 ชนิด คือ ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด และยาคุมฉุกเฉิน 2 เม็ด ซึ่งจะมีวิธีใช้ยาที่แตกต่างกันไป แต่ยังมีบางคนที่มักจะเข้าใจวิธีการกินยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด และ 2 เม็ดผิดอยู่ นอกจากประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์จะน้อยแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย เช่น ประจำเดือนไม่มา หรือมานิด ๆ หน่อย ๆ คลื่นไส้ อาเจียน อีกทั้งเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูกสูง
เพราะฉะนั้น จึงต้องศึกษาวิธีกินยาคุมฉุกเฉินทั้งชนิด 1 เม็ด และชนิด 2 เม็ดให้เข้าใจ พร้อมกับปฏิบัติตามวิธีเหล่านี้อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ยาออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดโอกาสการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น และเกิดอันตรายต่อสุขภาพน้อยที่สุด
ที่มา
Embryogenesis and Fetal Development (พัฒนาการของทารกในครรภ์) จาก ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวทวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Emergency contraception จาก ภาควิชาสูติศาสตร์และนรีเวทวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ความรู้ทั่วไปเรื่องยาคุมฉุกเฉิน จาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ยาคุมฉุกเฉิน…เรื่องจริงที่ผู้หญิงต้องรู้ จาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
อย. แนะ วิธีใช้ยาคุมฉุกเฉินให้ปลอดภัย จาก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่
หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง