อาการปวดหัวมีหลายประเภทด้วยกัน แต่เพียงบางประเภทเท่านั้นที่ส่งผลให้เกิดอาการ “ปวดหัวข้างขวา หรือ ปวดหัวข้างเดียว” โดยสาเหตุจะแตกต่างกันออกไป อาการเหล่านี้นอกจากสร้างความไม่สบายใจในชีวิตประจำวันแล้ว ยังเป็นอาการเตือนเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพได้
บทความนี้ ร้านยาเอ็กซ์ต้า พลัส จึงมีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ ปวดหัวข้างขวา แก้ยังไง ปวดหัวแบบไหนอันตรายต้องรีบพบแพทย์ มาแบ่งปันกัน
ลักษณะอาการปวดหัวข้างขวา
อาการปวดหัวข้างขวา อาจทำให้เกิดอาการปวดตุบ ๆ หรือปวดอย่างรุนแรงในบริเวณต่าง ๆ รวมถึง ฐานกะโหลก คอ ฟัน หรือตา
อาการปวดหัวประเภทไหนที่ส่งผลต่อซีกขวา
ไมเกรน และ อาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์เป็นสาเหตุที่เป็นไปได้ซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดหัวข้างขวา รวมไปถึงอาการปวดหัวจากความตึงเครียด
- ไมเกรน (Migraines)
อาการไมเกรนอาจเกิดขึ้นที่ศีรษะข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง โดยมีปัจจัยที่สามารถกระตุ้นให้เกิดไมเกรน เช่น ความไวต่อแสงและเสียง คลื่นไส้และอาเจียน ตาพร่ามัว หรือรู้สึกชา เป็นต้น
- ปวดหัวแบบคลัสเตอร์ (Cluster Headache)
เป็นอาการเจ็บปวดรุนแรงและมักเกิดขึ้นรอบดวงตาข้างหนึ่ง อาจแผ่กระจายไปยังบริเวณอื่นของศีรษะและใบหน้า ตลอดจนคอและไหล่ รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น เหงื่อออกบนใบหน้า ผิวซีดหรือแดง ตาแดงหรือน้ำตาไหล รู้สึกกระสับกระส่าย เป็นต้น
- อาการปวดหัวจากความตึงเครียด (Tension Headaches)
เป็นอาการปวดศีรษะที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งพบใน 75 %ของคนทั่วไป มักเกิดกับศีรษะทั้ง 2 ข้าง แต่บางคนอาจปวดหัวข้างขวา หรือ ซ้าย เพียงข้างเดียว
ปวดหัวข้างขวาเกิดจากสาเหตุอะไร
-
ด้านการดำเนินชีวิตทั่วไป
เช่น ความเครียด ความเหนื่อยล้า ปัญหากล้ามเนื้อคอ เป็นต้น
-
การติดเชื้อและภูมิแพ้
การติดเชื้อไซนัสและภูมิแพ้อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ อาการปวดหัวที่เกิดจากการติดเชื้อไซนัสเป็นผลมาจากการอักเสบ ซึ่งนำไปสู่แรงกดและความเจ็บปวดบริเวณหลังโหนกแก้ม และหน้าผาก
-
ยาและการใช้ยาเกินขนาด
การใช้ยารักษาอาการปวดหัวมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ เช่น
- ยาแก้ปวดทั่วไป เช่น พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อะเซตามิโนเฟน (Acetaminophen) และยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะจากการใช้ยามากเกินไปเมื่อรับประทาน 15 วันขึ้นไปต่อเดือน
- ยารักษาโรคไมเกรน ประเภท Triptans, Ergotamines และ Opioids อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวเมื่อใช้ 10 วันขึ้นไปต่อเดือน
- คาเฟอีน การได้รับคาเฟอีนมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวัน อาจทำให้ปวดหัวได้
เนื่องจากการใช้ยาเหล่านี้ในปริมาณสูงเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของสมอง ซึ่งนำไปสู่อาการปวดศีรษะ
-
สาเหตุจากระบบประสาท
- โรคประสาทท้ายทอย ในส่วนของเส้นประสาทท้ายทอย 2 เส้นในกระดูกสันหลังของคอส่วนบนที่วิ่งผ่านกล้ามเนื้อไปยังหนังศีรษะ การระคายเคืองของเส้นประสาทเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย หรือรู้สึกเสียวซ่า มักจะทำให้ปวดหัวข้างเดียว
- หลอดเลือดแดงขมับอักเสบ (Temporal Arteritis) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หลอดเลือดแดงขนาดใหญ่อักเสบ (Giant Cell Arteritis; GCA) เป็นภาวะที่มีหลอดเลือดแดงอักเสบหรือเสียหายซึ่งส่งเลือดไปเลี้ยงศีรษะและสมอง แรงกดนี้อาจทำให้เกิดอาการอื่น ๆ เช่น ปวดไหล่หรือสะโพก ปวดกราม เป็นต้น
- โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า (Trigeminal Neuralgia) เป็นภาวะเรื้อรังที่ส่งผลต่อเส้นประสาทที่รับความรู้สึกจากใบหน้าไปยังสมอง การกระตุ้นเพียงเล็กน้อยบนใบหน้าอาจทำให้เกิดความเจ็บปวดได้
-
สาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ปวดหัวข้างขวา
- กรรมพันธุ์
- ความวิตกกังวลและความผิดปกติทางอารมณ์
- โรคหยุดหายใจขณะหลับ หรือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea) ทำให้เกิดภาวะพร่องออกซิเจนและเกิดคาร์บอนไดออกไซด์คั่งในเลือด จนถึงระดับที่สมองต้องมีการสั่งการให้หายใจ ทำให้สมองถูกกระตุ้นให้ตื่นอยู่ตลอดเวลา
- พฤติกรรมการกัดฟันและกรามแน่น
7 วิธีแก้อาการปวดหัวข้างขวาด้วยตนเอง
- ประคบอุ่นที่หลังคอ เพื่อลดอาการปวดและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
- อาบน้ำอุ่น จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายตัวมากขึ้น
- ปรับเปลี่ยนท่าทางเพื่อลดความตึงเครียดจากศีรษะ คอ และไหล่
- การพักงีบ 15 – 20 นาที จะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดจากความเหนื่อยล้าได้
- ปล่อยผม ไม่รวบตึงเป็นหางม้า หรือ ถักเปีย ทำมวยผม
- หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้ปวดหัว ได้แก่
- แอลกอฮอล์ เพราะส่วนประกอบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มี สารอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้อีกทั้งแอลกอฮอล์จะออกฤทธิ์กับไต ส่งผลให้เกิดการสูญเสียของเหลวออกจากร่างกาย หรือการปัสสาวะ โดยนำไปสู่การขาดน้ำ และอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้
- คาเฟอีน หากมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ ให้ค่อย ๆ ลดปริมาณคาเฟอีนลง
- ผงชูรส เนื่องจากผงชูรสเป็นกรดอะมิโนกระตุ้นที่จับกับการรับ MNDA ในสมอง การกระตุ้นนี้นำไปสู่การปลดปล่อยไนตริกออกไซด์ ซึ่งจะนำไปสู่การขยายหรือขยายหลอดเลือดรอบ ๆ กะโหลกศีรษะ รวมถึงอ้างอิงจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ที่ Cephalalgia พบว่าผู้ที่บริโภคผงชูรสในปริมาณสูง จะมีความดันโลหิตเพิ่มขึ้น
- บำบัดด้วยกลิ่นหอม (Aromatherapy) อย่างการใช้มันหอมระเหย (Diffusing Oils) กลิ่นน้ำมันยูคาลิปตัส ลาเวนเดอร์ หรือสะระแหน่ เพื่อใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดหัวจากความตึงเครียด
เมื่อปวดหัวข้างขวาแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์
หากพบว่าความถี่หรือความรุนแรงของอาการปวดศีรษะมีการเปลี่ยนแปลง การมีอาการปวดศีรษะที่กินเวลานานกว่า 2 วัน หรือมีอาการปวดศีรษะมากกว่า 15 ครั้ง ใน 1 เดือน แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ รวมถึงอาการดังต่อไปนี้
- อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นกะทันหันหรือรุนแรง
- อาการปวดหัวที่ “แย่ที่สุด” ที่เคยประสบมา
- อาการอ่อนแรงหรือมึนงงที่มาพร้อมกับอาการปวดหัว
- การสูญเสียความสมดุล หรือ การสั่งการอื่น ๆ
นอกจากนี้ อาจไปพบแพทย์หากอาการปวดหัวเกิดขึ้นกะทันหันและรุนแรง ตื่นกลางดึก หรือแย่ลงเรื่อย ๆ เป็นต้น
ที่มา:
อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่
หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง