กัญชา เป็นพืชล้มลุกจำพวกหญ้า ซึ่งในใบกัญชามีสารเคมีกลุ่ม cannabinoids เป็นสารออกฤทธิ์ที่นำมาใช้เพื่อประโยชน์ต่าง ๆ เช่นต้านการอักเสบ ทำให้ผ่อนคลาย และทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์เช่นคลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง ใจสั่น ความดันโลหิตตก หรือทำให้เกิดอาการเคลิ้ม ควบคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งการใช้ กัญชา แม้จะใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ก็ทำให้เกิดอาการเสพติดได้ จึงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง และอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญเช่นแพทย์ หรือเภสัชกร
สารเคมีกลุ่ม Cannabinoids ในกัญชา ประกอบด้วยสารหลักสองชนิด คือ THC และ CBD ซึ่งสารทั้งสองชนิด เมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะผ่านการเปลี่ยนแปลงที่ตับ ดังนั้น การใช้กัญชาร่วมกับยาหลายชนิดที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ตับ จึงอาจมีอันตราย ทั้งจากการเสริมฤทธิ์กันของ กัญชา และยาอื่น พิษต่อตับที่เพิ่มขึ้น และอาการข้างเคียงทั้งของกัญชาและยาที่รับประทานร่วมกันที่เพิ่มมากขึ้น
ฤทธิ์ของ กัญชา ต่อร่างกาย ได้แก่
ประโยชน์ – เช่น เพิ่มความอยากอาหาร ระงับปวด ต้านอาการชัก ลดการอักเสบ
โทษ – เช่น ปากแห้งใจสั่น ความดันต่ำ กดการหายใจ มีผลต่อความจำและการควบคุมตัวเอง รบกวนการเคลื่อนไหว คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ
นอกจากนี้ การใช้ กัญชา เป็นระยะเวลานาน จะส่งผลเสียต่อระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด รบกวนการหลังของฮอร์โมนต่าง ๆ ส่งผลต่อการทำงานของสมองและการรับรู้ อาจทำให้มีภาวะคลื่นไส้อาเจียนเรื้อรัง และก่อให้เกิดภาวะมีบุตรยาก ประจำเดือนมาไม่ปกติ และการสูบกัญชา ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดอีกด้วย
ยาที่ควรใช้อย่างระมัดระวัง เมื่อใช้ร่วมกับ กัญชา
- ยาที่ เพิ่มความเป็นพิษต่อตับ เมื่อใช้ร่วมกับกัญชา เช่นยากันชัก Valproic Acid, ยาฆ่าเชื้อไวรัส Favipiravir, แอลกอฮอล์, ยาลดไขมันกลุ่มสแตติน, ยาพาราเซตามอล
- ยาที่ เสริมฤทธิ์กดประสาท ทำให้ง่วง เมื่อใช้ร่วมกับกัญชา เช่น แอลกอฮอล์ ยาแก้ปวดมอร์ฟีน ยานอนหลับ
- ยาที่ เพิ่มอาการใจสั่น ความดันโลหิตตก เมื่อใช้ร่วมกับกัญชา เช่น ยาลดอาการคัดจมูก กาแฟ ชา
- ยาที่ ฤทธิ์และอาการข้างเคียงมากขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับกัญชา เช่น
- ยาหัวใจ Amiodarone, Verapamil, Diltiazem
- ยายับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด/ละลายลิ่มเลือด Warfarin, Clopidogre, Cilostazoll,
- ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Erythromycin, Clarithromycin,
- ยาฆ่าเชื้อรา Itraconazole, Fluconazole, Ketoconazole,
- ยาฆ่าเชื้อไวรัส Efavirenz, Protease inhibitors
- ยาช่วยปรับอารมณ์ รักษาโรคซึมเศร้า โรคจิตเภท
- ยาแก้ปวด แก้ปวดไมเกรน Tramadol, Ergotamine
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่ควรระมัดระวังอย่างมากเมื่อต้องใช้กัญชา ได้แก่
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้ป่วยจิตเวช
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด warfarin เนื่องจากเพิ่มโอกาสในการทำให้เกิดภาวะเลือดเหลว เลือดหยุดยาก และอาจทำให้เลือดออกในอวัยวะภายในได้
- ห้ามใช้กัญชาในคนอายุต่ำกว่า 20 ปีเนื่องจากมีผลรบกวนการทำงานของสมอง และการพัฒนาด้านอารมณ์
- ห้ามใช้กัญชา ในหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร เนื่องจากกัญชาสามารถผ่านรกและน้ำนมไปสู่ทารกทำให้เกิดอันตรายได้
- ห้ามใช้กัญชาในผู้สูงอายุ เพราะเสี่ยงต่อการทำให้ใจสั่น ความดันโลหิตตก
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการใช้กัญชาอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อทางการแพทย์และเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ แต่อันตรายจากกัญชาต่อร่างกายยังคงมีอยู่มาก ซึ่งการใช้อย่างไม่ถูกต้อง จะทำให้เกิดผลเสียทั้งในระยะสั้น และระยะยาว ดังนั้น ผู้ป่วยที่ต้องการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้งานทุกครั้ง และใช้ตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกรอย่างเคร่งครัด
หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับสุขภาพและการใช้ยาสามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ
- Viewacademic // (no date) ViewAcademic. Available at: https://www.fda.moph.go.th/sites/Narcotics/SitePages/ViewAcademic.aspx?IDitem=1 (Accessed: March 17, 2023).
- Guidance on Cannabis for Medical Use. กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3/2563
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง