สภาพอากาศร้อนชื้นในประเทศไทยทำให้ “ผดร้อนขึ้นหน้า” ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่พบบ่อย โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน มักเกิดจากเหงื่อที่ไม่สามารถระเหยออกจากผิว จนเกิดการอักเสบของรูขุมขน กลายเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ คัน และระคายเคือง เป็นผื่นผดร้อนบริเวณใบหน้า
บทความนี้ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจถึงอาการผดร้อนขึ้นหน้า เมื่อผิวปะทะความร้อน พร้อม 5 วิธีดูแลง่าย ๆ มาฝากกัน
ลักษณะของ ผดร้อนขึ้นหน้า
ผดร้อน หรือ Miliaria มีหลายประเภทตามระดับความลึกของการอุดตันของต่อมเหงื่อ โดยทั่วไปมักมีลักษณะเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1-3 มิลลิเมตร มักพบบริเวณหน้าผาก แก้ม คาง หรือบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก ผดร้อนขึ้นหน้าสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
- Miliaria Crystallina เป็นตุ่มใสคล้ายหยดน้ำขนาด 1-2 มิลลิเมตร ไม่มีการอักเสบ เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อที่ชั้นผิวหนังส่วนบนสุด พบได้บ่อยในทารกแรกเกิดและผู้ใหญ่ที่มีไข้สูง
- Miliaria Rubra เป็นประเภทที่พบบ่อยที่สุด มีลักษณะเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ ขนาด 2-4 มิลลิเมตร มีอาการคันมาก บางครั้งอาจมีน้ำใส ๆ ภายในตุ่ม เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อในชั้นผิวหนังระดับกลาง
- Miliaria Profunda พบได้น้อยและมักเกิดในผู้ใหญ่เพศชาย ลักษณะเป็นตุ่มนูนสีเนื้อขนาด 1-3 มิลลิเมตร ไม่มีอาการ เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อในชั้นผิวหนังลึก มักเกิดหลังจากมีอาการของ Miliaria Rubra ซ้ำหลายครั้ง
ทั้งนี้ผดร้อนที่พบขึ้นบริเวณใบหน้ามักเป็นประเภท Miliaria Rubra ซึ่งมักมีอาการคัน และรู้สึกแสบร้อน ตุ่มเหล่านี้มักเกิดขึ้นเป็นกลุ่ม และมีขนาดเล็กมาก แตกต่างจากสิวที่มักมีขนาดใหญ่กว่าและมีหัวสีขาวหรือสีดำ
ความแตกต่างระหว่าง ผดร้อนขึ้นหน้า กับปัญหาผิวอื่น ๆ
ผดร้อนขึ้นหน้ามีลักษณะที่แตกต่างจากปัญหาผิวอื่น ๆ ซึ่งทำให้หลายคนอาจสับสนระหว่างผดร้อนกับสิว เนื่องจากทั้งสองอาการมีลักษณะคล้ายกัน แต่ผดร้อนมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากที่ร่างกายเผชิญกับความร้อนสูงและมักจะหายไปเมื่ออุณหภูมิลดลงหรือได้รับการรักษาที่เหมาะสม ในขณะที่สิวมักเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว มีลักษณะเป็นหัวสิวสีขาวหรือสีดำ และใช้เวลาในการรักษานานกว่า
ผดร้อนต่างจากผื่นร้อนอย่างไร
ผดร้อนและผื่นร้อนแม้จะมีชื่อคล้ายกันแต่มีความแตกต่างกัน ผดร้อนขึ้นหน้า (Heat Rash หรือ Miliaria) เกิดจากการอุดตันของต่อมเหงื่อและรูขุมขน มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงเล็ก ๆ ขนาด 1-3 มิลลิเมตร และมักพบเฉพาะบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ใบหน้า คอ และบริเวณที่มีการเสียดสี
ในขณะที่ผื่นร้อน (Heat Urticaria) เป็นภาวะลมพิษที่เกิดจากการแพ้ความร้อน มีลักษณะเป็นผื่นแดงขนาดใหญ่ แบนราบ หรือนูนเล็กน้อย กระจายเป็นบริเวณกว้าง และมักเกิดขึ้นทันทีเมื่อผิวสัมผัสกับความร้อน แต่จะหายไปเร็วเมื่อเข้าที่เย็น นอกจากนี้ ผื่นร้อนอาจเกิดร่วมกับอาการแพ้อื่น ๆ เช่น หายใจลำบาก หรือหน้าบวม ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็ว
สาเหตุของผดร้อนขึ้นหน้า
ผดขึ้นหน้าเกิดจากหลายปัจจัย โดยสาเหตุหลักมาจากการที่ร่างกายต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายพยายามปรับตัวด้วยการขับเหงื่อออกมามากกว่าปกติ เมื่อเหงื่อไม่สามารถระบายออกได้ดี จะเกิดการอุดตันที่รูขุมขนและนำไปสู่การอักเสบ
อุณหภูมิและความชื้นสูงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด ผดร้อนขึ้นหน้า
ในสภาพอากาศที่ร้อนและชื้น ร่างกายต้องขับเหงื่อออกมามากเพื่อระบายความร้อน แต่ความชื้นในอากาศทำให้เหงื่อระเหยได้ยากขึ้น ส่งผลให้เหงื่อค้างอยู่บนผิวนานเกินไป โดยเฉพาะในบริเวณใบหน้าที่มีต่อมเหงื่อและต่อมไขมันจำนวนมาก ยิ่งถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากเกินไป จะยิ่งทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดการระคายเคืองผิวได้ง่าย ในผู้ใหญ่ที่ย้ายไปอยู่ในเขตร้อนชื้น อาการอาจเริ่มปรากฏภายในไม่กี่วัน แต่มักจะถึงจุดรุนแรงที่สุดหลังจากอยู่ได้หลายเดือน
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง
จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า ผดร้อนสามารถพบได้ถึง 30% ในผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมเขตร้อน นอกจากอุณหภูมิและความชื้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่
- ต่อมเหงื่อที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ในทารกแรกเกิด (พบได้ถึง 9% ในทารก)
- การมีไข้สูงเป็นเวลานาน
- การออกกำลังกายอย่างหนักโดยไม่ได้ทำความสะอาดผิวหน้าทันที
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความมันสูงหรือมีส่วนผสมของน้ำมัน
- การสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดีหรือเสื้อผ้าสังเคราะห์ที่ไม่ซึมซับเหงื่อ
- การนอนบนที่นอนหรือผ้าปูที่นอนกันน้ำ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่นอนติดเตียง
- ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดที่ทำให้เหงื่อออกมาก
- ผู้ที่เคยได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา
- โรคผิวหนังบางชนิด เช่น Stevens-Johnson Syndrome
อาการของ ผดร้อนขึ้นหน้า
อาการที่พบได้บ่อยของผดร้อนขึ้นหน้าคือความรู้สึกคัน แสบร้อน และอาจมีอาการระคายเคือง ความรุนแรงของอาการอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย ในขณะที่บางคนอาจมีอาการรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
อาการทั่วไปของ ผดร้อนขึ้นหน้า
- ตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะที่หน้าผาก แก้ม และคาง
- อาการคันหรือแสบร้อนบริเวณที่มีผดร้อน
- ความรู้สึกระคายเคืองเมื่อเหงื่อออก
- ผิวบริเวณที่เป็นผดร้อนอาจมีความไวต่อการสัมผัสมากกว่าปกติ
- อาการมักแย่ลงเมื่ออยู่ในที่ร้อนหรือออกกำลังกาย
อาการที่ควรระวังและเมื่อไหร่ควรพบแพทย์
หากมีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วย ควรพบแพทย์โดยเร็ว
- มีไข้สูง
- มีหนองหรือของเหลวสีเหลืองไหลออกมาจากตุ่ม
- บริเวณที่เป็นผดร้อนมีอาการบวม แดง และร้อนมากขึ้น
- มีอาการปวดหรือเจ็บรุนแรง
- ผดร้อนไม่ดีขึ้นหลังจากดูแลด้วยตนเองเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
5 วิธีดูแลและรักษาผดร้อนขึ้นหน้า
-
ลดความร้อน และความชื้นที่ผิวหน้าด้วยวิธีธรรมชาติ
การลดอุณหภูมิที่ผิวหน้าเป็นวิธีแรกที่ควรทำเมื่อเกิดผดร้อนขึ้นหน้า สามารถทำได้โดยการประคบเย็นด้วยผ้าชุบน้ำเย็น (ไม่ใช้น้ำแข็ง เพราะอาจระคายเคืองผิวมากขึ้น) ประมาณ 10-15 นาที วันละ 3-4 ครั้ง นอกจากนี้ การใช้น้ำแร่สเปรย์ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการลดความร้อนที่ผิวหน้า หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนชื้นเป็นเวลานาน และพยายามอยู่ในที่ที่มีการระบายอากาศดี หรือมีเครื่องปรับอากาศเพื่อควบคุมความชื้น
-
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับผดร้อนที่ขึ้นบริเวณหน้า
ในช่วงที่มีปัญหาผดร้อนขึ้นหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือน้ำหอมที่อาจระคายเคืองผิว ควรใช้โฟมล้างหน้าที่มีค่า pH ที่สมดุลกับผิว หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือซีรัมที่มีความหนาและมีส่วนผสมของน้ำมัน
ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับการรักษา ได้แก่
- โลชั่นคาลาไมน์ ช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการคัน และดูดซับความชื้นส่วนเกิน
- เจลว่านหางจระเข้ ช่วยลดการอักเสบและให้ความชุ่มชื้นโดยไม่อุดตันรูขุมขน
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซาลิไซลิก แอซิดความเข้มข้นต่ำ ช่วยลดการอักเสบและลดการอุดตันของรูขุมขน
- ครีมสเตอรอยด์ชนิดอ่อนที่จำหน่ายโดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ สามารถช่วยบรรเทาอาการในกรณีที่มีอาการอักเสบมาก แต่ควรใช้ในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น โดยจำเป็นต้องซื้อผ่านเภสัชกรในร้านขายยาที่น่าเชื่อถือ และได้มาตรฐานเท่านั้น
- ยาปฏิชีวนะเฉพาะที่ ในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง
-
ปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันการเกิดผดร้อนขึ้นหน้าซ้ำ
นอกจากการรักษาแล้ว การปรับพฤติกรรมบางอย่างยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดผดร้อนขึ้นหน้าได้ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายกลางแจ้งในช่วงที่อากาศร้อนจัด สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ทำความสะอาดผิวหน้าทันทีหลังเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก และดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
รับประทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบของผดร้อนขึ้นหน้า
อาหารที่รับประทานมีผลต่อสุขภาพผิวเป็นอย่างมาก การเลือกรับประทานอาหารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบสามารถช่วยลดอาการผดร้อนขึ้นหน้าได้ โดยแนะนำให้รับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี พริกหวาน ซึ่งช่วยเสริมสร้างผิวให้แข็งแรง อาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาทะเลน้ำลึก เมล็ดเชีย วอลนัต ที่มีส่วนช่วยลดการอักเสบ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารทอด และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือ แอลกอฮอล์ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดผดร้อนได้มากขึ้น
-
ใช้สมุนไพรไทยบรรเทาอาการผดร้อนขึ้นหน้า
สมุนไพรไทยหลายชนิดมีสรรพคุณในการบรรเทาอาการผดร้อนขึ้นหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ว่านหางจระเข้เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีประสิทธิภาพสูงในการลดการอักเสบและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว สามารถนำเนื้อว่านหางจระเข้สดมาทาบริเวณที่เป็นผดร้อนและทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น
- ขมิ้นชันผสมน้ำผึ้งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เนื่องจากขมิ้นชันมีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ ในขณะที่น้ำผึ้งช่วยให้ความชุ่มชื้นและมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ
การใช้สิทธิบัตรทองในการรักษาอาการแพ้ และมีผดผื่นคัน
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้อากาศร้อนจนเกิดผื่นผิวหนัง สามารถใช้สิทธิบัตรทองเพื่อรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วม “โครงการร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย 32 อาการ” ได้ ซึ่งจะมีเภสัชกรคอยให้คำปรึกษา และจ่ายยาที่จำเป็น เช่น ยาทาแก้ผดผื่นคัน เพื่อบรรเทาอาการแพ้ต่าง ๆ ให้หายดีขึ้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ผู้ที่ต้องการใช้สิทธิบัตรทองสำหรับรักษาอาการคันที่ร้านยา สามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาใกล้บ้านได้ผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) [เช็กรายชื่อร้านยาได้ที่นี่] โดยร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้เข้าร่วมโครงการสิทธิบัตรทอง พร้อมให้บริการ Delivery จัดส่งยาและสินค้าสุขภาพถึงบ้าน ผ่านแอปพลิเคชัน ALL PharmaSee
ใช้บริการ Delivery คลิกเลย!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผดร้อนขึ้นหน้า
Q: ผดร้อนขึ้นหน้าหายเองได้ไหม?
A: สามารถหายเองได้ภายใน 3-7 วัน หากได้รับการดูแลที่เหมาะสมและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น การลดการสัมผัสกับความร้อนและความชื้น การทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านการอักเสบจะช่วยให้อาการดีขึ้นเร็วยิ่งขึ้น
Q: ยาทาคาลาไมน์ช่วยรักษา ผดร้อนขึ้นหน้า ได้จริงไหม?
A: ยาทาคาลาไมน์ช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบและอาการคัน คาลาไมน์ยังช่วยดูดซับความชื้นส่วนเกินบนผิวหน้า ลดการระคายเคือง และให้ความรู้สึกเย็นบนผิว ควรทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นผดร้อน 2-3 ครั้งต่อวัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น
Q: เมื่อไหร่ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการ ผดร้อนขึ้นหน้า?
A: หากไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์หลังจากการดูแลด้วยตนเอง หรือมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้ ปวดบริเวณที่เป็นผดร้อน มีหนองหรือของเหลวสีเหลืองไหลออกมา หรือมีรอยแดงที่ขยายวงกว้างขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
Q: ผดร้อนขึ้นหน้ามีโอกาสเข้าใจสับสนกับโรคผิวหนังอื่น ๆ ไหม?
A: อาจมีลักษณะคล้ายกับโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น โรคผิวหนังที่อาจสับสน ได้แก่ เริม (Herpes Simplex), การติดเชื้อรา, หูด, สิว, ผื่นแพ้ยาชนิดรุนแรง และโรคโกรเวอร์ (Grover Disease) การสังเกตลักษณะตุ่ม ตำแหน่งที่เกิด และปัจจัยกระตุ้นจะช่วยในการวินิจฉัยแยกโรคได้ หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
สรุป ผดร้อนขึ้นหน้า เมื่อผิวปะทะความร้อน
“ผดร้อนขึ้นหน้า” เป็นรูปแบบหนึ่งของผดร้อน (Miliaria) ซึ่งมักเกิดจากความร้อนและความชื้นจนทำให้ท่อเหงื่ออุดตัน โดยมีหลายชนิด เช่น Miliaria Crystallina, Miliaria Rubra, และ Miliaria Profunda ที่แตกต่างกันตามระดับความลึกของการอุดตัน อาการทั่วไปคือการเกิดตุ่มใสหรือแดง คันหรือแสบบริเวณผิวหน้าและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การป้องกันและดูแลที่สำคัญคือ ลดความร้อนและความชื้น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม ล้างหน้าด้วยความนุ่มนวล และพักผ่อนเพียงพอ หากอาการรุนแรงหรือติดเชื้อ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยตรง
ที่มา
Miliaria จาก National Library of Medicine
Miliaria บทความจาก Dermnetnz
แนะใช้ยา-สมุนไพรไทยแก้ปัญหาโรคฮิตหน้าร้อน จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
อัปเดตและติดตามสาระสุขภาพดี ๆ จาก ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ได้ที่
หากมีข้อสงสัย หรืออยากสอบถามเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่อง สุขภาพและการใช้ยา สามารถปรึกษากับเภสัชกรได้ที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถปรึกษาเภสัชกรร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ผ่าน Application ALL PharmaSee ได้ แล้วมาสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง