ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า การใส่หน้ากากอนามัยจะช่วยลดการแพร่กระจายของละอองที่มีเชื้อโรคได้ถึงร้อยละ 80
เพราะฉะนั้นการที่คุณออกไปเจอคนมากๆ ตามที่สาธารณะ การพกหน้ากากอนามัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากเลยทีเดียว แต่สมัยนี้หน้ากากอนามัยมีหลายรูปแบบ ที่เห็นและซื้อหาได้ทั่วไปมี 3 ชนิดด้วยกัน มาดูกันค่ะว่าแต่ละประเภทมีข้อดีอย่างไร
หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น
- เป็นแบบใช้แล้วทิ้ง ควรเปลี่ยนใหม่ทุกวัน
- กรองฝุ่นได้ดี ป้องกันของเหลวซึมผ่านได้
- ช่วยป้องกันการแพร่เชื้อจากการไอ หรือจามได้
- ช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสที่มีขนาดเล็กระดับไมครอนได้
- ราคาไม่แพง
หน้ากากอนามัยผ้าฝ้าย
- คุณสมบัติเดียวกันกับแบบเยื่อกระดาษ
- นำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยการซักด้วยผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ
- ควรมีสำรองไว้เผื่อซักทำความสะอาด เพราะไม่ควรใส่ของเดิมซ้ำหลายวัน
หน้ากากอนามัยชนิด N95
- ป้องกันเชื้อได้เล็กถึงขนาด 0.3 ไมครอน
- อายุการใช้งานประมาณ 3 สัปดาห์
- ขอบของหน้ากากมิดชิดกว่าเยื่อกระดาษและผ้า จึงป้องกันเชื้อได้ดีกว่า
วิธีใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง
ส่วน หน้ากากอนามัยชนิด N95 สำหรับใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรคและมลพิษทางอากาศ มีวิธีการใส่ที่แตกต่างจากหน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้นและหน้ากากอนามัยผ้าฝ้าย จึงต้องให้ความสำคัญกับขั้นตอนการใส่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคสูงสุด ดังนี้
ข้อแนะนำในการใช้หน้ากากอนามัย
- ไม่ใช้หน้ากากร่วมกับผู้อื่น
- เก็บหน้ากากใส่ถุงผ้า หรือถุงพลาสติกเมื่อไม่ใช้งานชั่วคราว เช่น รับประทานอาหาร
- การทิ้งหน้ากากอนามัย ควรทิ้งในถังที่ระบุว่าเป็นขยะอันตราย
ที่มา Ramathibodi